วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2561

เครื่องฉายโปรเจคเตอร์

จัดทำโดย นาย โสรฬ เดชศักดา รหัสนักศึกษา 6031280065
เครื่องฉายโปรเจคเตอร์


โปรเจคเตอร์ (Projector) คืออุปกรณ์ฉายภาพที่ใช้ในการนำเสนอข้อมูลต่างๆ โดยสามารถรองรับสัญญาณภาพจากคอมพิวเตอร์,เครื่องเล่นวีซีดี, เครื่องเล่นดีวีดีและเครื่องกำเนิดภาพอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันนี้โปรเจคเตอร์เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในหน่วยงานราชการ,สถานศึกษา, สำนักงานหรือบริษัทเอกชนรวมไปถึงการใช้งานเพื่อการตอบสนองความต้องการในด้าน Home Entertainment โดยใช้เชื่อมต่อเป็น Home Theater เพื่อเพิ่มเติมอรรถรสสำหรับความบันเทิงในบ้าน เป็นเครื่องฉายภาพขนาดใหญ่ที่สามารถนำภาพหรือข้อมูลต่างๆ แสดงให้คนดูได้หลายคน ปัจจุบันมี 2 ชนิด คือแบบ LCD (Liquid Crystal Display) เหมาะที่จะใช้งานเช่น Home Entertainment หรือห้องประชุมที่มีผู้ร่วมประชุมไม่มากนัก และการ Present ด้วยภาพ มีสีที่สด สว่าง น่าชม ให้สีที่เป็นธรรมชาติมากกว่า มีความคมชัดและแม่นยำ ที่ค่า lumen เท่ากัน LCD จะสว่างกว่า DLP
แบบ DLP (Digital Light Processing) เหมาะสำหรับการใช้กับห้องที่มีพื้นที่มาก และข้อมูลที่เป็นแบบตัวเลขหรือตาราง มีค่าContrast สูง ช่องว่างระหว่างพิกเซลน้อยแต่ละพิกเซลเรียงตัวได้ชิดกันมากมีน้ำหนักเบา อายุการใช้งานยาวทำไมคนทำงานหรือสำนักงานต้องใช้เทคโนโลยีนี้เพราะโปรเจคเตอร์มีความสามารถในการขยายสิ่งที่จะแสดงเนื้อหา ตาราง รูปภาพให้ใหญ่และเห็นได้ชัดขึ้น เมื่อมีการประชุมหรือแสดงตาราง กราฟต่างๆ เวลามีการประชุมหรือPresentงาน โปรเจคเตอร์จะทำให้คนในสำนักงานให้ความสนใจ ตั้งใจและมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่สำนักงานจะนำเสนอมากขึ้น ทำให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน และโปรเจคเตอร์สามารถใช้งานได้ง่ายไม่ค่อยยุ่งยากและซับซ้อนการใช้งานจะใช้เมื่อไหร่เมื่อมีการประชุม, การPresent, การสัมมนา, การระดมสมองการจัดอบรมพนักงาน, แสดงรูปภาพ กราฟหรือแผนภูมิต่างๆ

วิธีการติดตั้งและใช้งานอย่างง่ายๆ มีข้อแนะนำได้ดังนี้

1.      ติดตั้งจอภาพในที่ที่มีแสงสว่างน้อยที่สุด เพื่อให้รับภาพได้คมชัดมากขึ้น 2.      ควรหาที่วางเครื่องโปรเจคเตอร์ให้สูงจากพื้นห้องขึ้นมาพอสมควร เพื่อป้องกันการชนเครื่องและป้องกันฝุ่นละออง 3.      เตรียมสายต่างๆ ที่จะต่อเข้าเครื่องก่อน จากนั้นจึงนำเครื่องโปรเจคเตอร์วางลงบนที่วาง และหันเลนส์ไปยังจอภาพที่จะฉาย ( ไม่ควรปรับมุมให้แหงนเกิน 45 องศา) จากนั้นจึงต่อสายเข้าเครื่องและเปิดปุ่ม POWER4.      เปิดฝาครอบเลนส์แล้วรอสักครู่ ภาพจะค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนจอภาพ 5.      ปรับตัวเครื่อง โดยกะด้วยสายตาให้ได้ระยะและองศาที่ดี หรือดูจากภาพบนจอจนได้ภาพและมุมตามที่ต้องการพร้อมทั้งปรับวงแหวนการปรับระยะ และวงแหวนปรับโฟกัสซึ่งจะอยู่ติดกับเลนส์จนชัดเจน 6.      เมื่อตรวจรายละเอียดพอคร่าวๆ แล้ว กดปุ่ม AUTO SET UP เพื่อให้เครื่องปรับภาพให้ใกล้เคียงมาตรฐานมากที่สุด ถ้าไม่มีก็ทำการปรับที่ MENU7.      การปิดเครื่อง กดปุ่ม POWER ให้โปรเจคเตอร์อยู่ในสถานะ STAND BY รอจนเครื่องเย็นจึงค่อยถอดปลั๊ก POWERการติดตั้งกับเครื่องคอมพิวเตอร์ Notebook ในเรื่องของการต่อเชื่อมนั้น คอมพิวเตอร์สมัยใหม่จะมีการส่งข้อมูลระหว่าง Notebook กับจอมอนิเตอร์หรือโปรเจคเตอร์ ฉะนั้นคุณจะต้องต่อเชื่อมสายสัญญาณ VGA ให้เสร็จ ก่อนจะเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนโปรเจคเตอร์ก็ให้ Standbyหรือเปิดเครื่องไว้ได้เลย บางเครื่องต้องเข้าไป set ใน properties ของหน้าจอก่อน ซึ่งสามารถทำได้ดังขึ้นตอนต่อไปนี้ 1.      คลิกปุ่มขวาของเมาส์บน wallpaper 2.      จะปรากฏเมนูขึ้นมาให้เลือก properties 3.      จะปรากฏเมนูอีกอันขึ้นมาแทนให้เลือก setting 4.      เลือก Advance 5.      เลือก Monitor 6.      เลือก ระหว่าง LCD. ของคอมพิวเตอร์ Notebook หรือ Monitor หรือ เลือกให้ออกทั้งสองอย่างพร้อมกัน ถ้าเลือก Monitor ภาพก็จะแสดงออกทางโปรเจคเตอร์ ( ขั้นตอนนี้อาจไม่เหมือนกันแล้วแต่ driver ของผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ Notebook บางเครื่องก็อาจจะเลือกให้แสดงพร้อมกันไม่ได้ ) นอกจากนี้บางครั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ก็อาจตั้งความถี่ในการ refresh rate ไม่ถูกต้องทำให้ภาพที่ฉายออกทางโปรเจคเตอร์สั่น หรือภาพอาจไม่อยู่ในตำแหน่ง หรือภาพอาจจะขาดหายได้ โดยเฉพาะโปรเจคเตอร์รุ่นเก่าๆที่ยังไม่ได้แก้ปัญหานี้ ก็ควรจะตั้ง refresh rate ของคอมพิวเตอร์ให้ถูกต้องด้วย ถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์ Notebook ของคุณไม่สามรถแสดงภาพออกพร้อมๆ กัน ทั้งมอนิเตอร์ของคอมพิวเตอร์และโปรเจคเตอร์แล้วละก็ อาจพอมีทางแก้โดยใช้เครื่องกระจายสัญญาณ VGA ชนิดเข้า ออก โดยต่อเครื่องกระจายสัญญาณเข้ากับคอมพิวเตอร์ Notebook และต่อโปรเจคเตอร์เข้ากับเครื่องกระจายสัญญาณ จากนั้นให้หาจอมอนิเตอร์มาต่อเข้ากับเครื่องกระจายสัญญาณ เท่านี้ก็สามารถดูภาพจากหน้าจอมอนิเตอร์ไปพร้อมๆ กับโปรเจคเตอร์ได้แล้ว
ประโยชน์การใช้งานโปรเจคเตอร์(Projectorทำให้เกิด QCDM กับงานคือช่วยการทำงานมีประสิทธิภาพ มีการประชุมกันทำให้เกิดความสามัคคีร่วมกัน มีการร่วมแสดงความคิดเห็น ทำให้คนในองค์กรมีความเข้าใจร่วมกัน ทำให้การทำงานรวดเร็วและสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีแม้ว่าโปรเจคเตอร์อาจมีราคาที่สูงแต่ก็มีความคุ้มค่า มีความสำคัญมากมายในการใช้งาน สามารถใช้งานได้ซ้ำหลายครั้ง เมื่อเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงานก็จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น